Last updated: 22 ธ.ค. 2565 | 729 จำนวนผู้เข้าชม |
ปรากฏการณ์นี้ เป็นข่าวที่ฮือฮาไปทั่วประเทศ และมีผู้สนใจอยากจะหามาใช้กับตนเองกันมาก และแน่นอน การตลาดในออนไลน์ ก็เกาะกระแสคำนี้ และได้มีการออกผลิตภัณฑ์การบำรุงผิวที่ใช้ชื่อว่า มณีแดง ออกมาจำหน่าย ทั้งๆที่ ก็ไม่ได้ใช้สารอะไรของมณีแดงจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาผสมในผลิตภัณฑ์นั้นเลย จนทำให้ผู้คน เกิดความสับสน
บทความนี้ จะช่วยให้เข้าใจในรายละเอียดเพิ่มขึ้น
มณีแดง เป็นคำภาษาไทย ที่คุณหมออภิวัฒน์ มุทิรางกูร จากคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นนักวิจัยผู้ค้นพบ "โมเลกุลมณีแดง" ซึ่งได้มาจากโมเลกุลทางการแพทย์ที่ประเทศไทยได้วิจัยพัฒนาขึ้นเป็นครั้งแรกของโลกคือ
REjuvenation Dna by GEnomic stability Molecules โดยใช้คำย่อว่า ”RED GEMs”
หรือแปลเป็นไทยได้ว่า "มณีแดง"
ดังนั้นมณีแดงจึงไม่ใช่ชื่อ สมุนไพร ไม่ใช่สูตรตำรับยาสมุนไพร ไม่ใช่อัญมณี ไม่ใช่แร่ธาตุ แต่เป็น "โมเลกุล " ที่วิจัยพัฒนาขึ้นมาทางการแพทย์
โมเลกุลที่สังเคราะห์ขึ้นดังกล่าวนี้ มีความสำคัญมาก เพราะจะไปช่วยแก้ปัญหา "ความชรา" ซึ่งเกิดขึ้นตามธรรมชาติของเซลล์สิ่งมีชีวิต
ก่อนที่จะเข้าใจ มณีแดง หรือโมเลกุลที่สำคัญตัวนี้ เราต้องไปรู้จักเกี่ยวกับ DNA กันก่อน เพื่อที่จะได้เข้าใจว่า มณีแดง ส่งผลต่อ "การคืนความหนุ่มสาว" ได้อย่างไร
" มนุษย์ " เป็นสิ่งมีชีวิตที่ประกอบด้วยเซลล์ ภายในเซลล์จะมีนิวเคลียสอยู่ ภายในนิวเคลียสมีโครโมโซม และโครโมโซมจะมี DNA เป็นองค์ประกอบสำคัญ
DNA เป็น สารพันธุกรรมคู่ ที่ขดเป็นเกลียว ดังนั้นจึงต้องมี การคลายตัวแล้วขดใหม่ ในกระบวนการต่างๆของการดำรงชีวิต
ในคนวัยหนุ่มสาว DNA จะมีข้อต่อ หรืออาจเรียกว่า "ช่องว่าง " หรือรอยแยก ( Youth DNA Gap) ซึ่งจะช่วยให้ DNA สามารถยืดหยุ่น เวลามีการคลายตัวและขดตัวได้ดี แต่เมื่อคนเรา อายุมากขึ้น ตัวข้อต่อ หรือ Gap นี้ก็ลดจำนวนลงเป็นลำดับ ทำให้ทุกครั้งที่ DNA มีการขดตัวและคลายตัว จะเกิดความเสียหายขึ้น เพราะขาดตัวข้อต่อ หรือ Gap ที่ช่วยทำให้เกิดความยืดหยุ่นขึ้นได้ ด้วยเหตุนี้ จึงส่งผลทำให้เซลล์เกิดความชราหรือแก่ตัว สิ่งมีชีวิตจึงแก่ชราไปตามเซลล์ด้วย จึงก่อให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บ เกิดริ้วรอยการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติ
คุณหมออภิวัฒน์และทีม ได้ค้นพบโมเลกุลพิเศษ (มณีแดง) ที่สามารถเพิ่มจำนวนหรือทำให้ข้อต่อรอยแยกดังกล่าวมีเพิ่มมากขึ้น จึงเป็นการต้านการชราภาพ หรือสามารถทำให้ย้อนวัย จากที่เซลล์แก่ชรา กลายเป็นเซลล์หนุ่มสาวได้
และปัจจุบันได้มีการทดลองกับ หนูทดลอง และได้มีความคืบหน้าไปมากพอสมควร และในปี 2566 ทางคุณหมออภิวัฒน์และทีม จะเริ่มวิจัยทดลองกับมนุษย์ เพื่อให้เกิดความมั่นใจได้ว่า มณีแดง สามารถใช้กับมนุาญืและมีความปลดภัย รวมทั้งช่วยทำให้ คืนความหนุ่มสาวได้ดังที่ได้ทดลองกับสัตว์ ไปแล้ว
สรุปว่า มณีแดงนั้น มีศักยภาพดังต่อไปนี้
1. รักษาโรคที่มีกลไกมาจาก เซลล์ เนื้อเยื่อ และอวัยวะเสื่อมสภาพที่พบในคนชราหรือชราเร็วจาก โรคบางชนิด เช่น เบาหวาน โดยในปัจจุบันยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ เช่น สมองเสื่อม อัลไซเมอร์ หัวใจวาย ความดันโลหิตสูง เส้นเลือดแข็ง เสื่อมสมรรถภาพ
ในอวัยวะต่าง ๆ แผล เป็นต้น
2. รักษาโรคที่อวัยวะเสื่อมสภาพจากการท้าลายจากสิ่งแวดล้อม เช่น ไฟไหม้ น้้าร้อนลวก ปอดพังจากบุหรี่ ตับสมองพังจากสุรา ไตพัง
จากสารพิษ เป็นต้น
3. เสริมสมรรถภาพของคนชราให้มีศักยภาพทางกาย รูปร่างหน้าตา เท่ากับคนหนุ่มสาว
4. อาจใช้ป้องกันและรักษามะเร็งได้(โดยการแก้ไขความชราของเซลล์เม็ดเลือดขาวที่มีหน้าที่ท้าลายเซลล์มะเร็ง และป้องกันมะเร็ง
จากการลดโอกาสเกิดการแตกท้าลายของ DNA อันน้าไปสู่การกลายพันธุ์ของยีน)
5. ใช้ชะลอการเสื่อมของร่างกายในเด็กที่มีความผิดปกติของยีนซ่อมแซมดีเอ็นเอ
6. ใช้เสริมความงาม
7. ใช้เพิ่มผลิตผลทางการเกษตร
8. ใช้ป้องกันความพิการแต่กำเนิด
ที่มา เอกสารการบรรยาย ศาสตราจารย์ ดร นพ อภิวัฒน์ มุทิรางกูร
ทุนวิจัยแกนนำ สวทช P-19-50189
#มณีแดง #RedGems
#ย้อนวัย #คืนความหนุ่มสาว
2 ม.ค. 2567
21 พ.ย. 2566
22 ม.ค. 2567
21 พ.ย. 2566