รู้จัก CBD , THC and Terpenes ในกัญชา

กัญชา เป็นพืชชนิดหนึ่งในวงศ์ Cannabaceae พืชวงศ์เล็กๆ ที่คาดว่า มีถิ่นกำเนิดในเขตอบอุ่นของซีกโลกเหนือ แต่ได้มีวิวัฒนาการแพร่กระจายไปทั่วโลก


กัญชา จัดได้ว่า เป็นพืชอเนกประสงค์ เพราะทุกส่วนของต้น สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ มีการนำเส้นใยของต้นกัญชง มาทำผ้าและกระดาษใยกัญชง กัญชา สามารถนำมาทำอาหาร ทั้งใบและเมล็ด และสามารถนำสารสกัดจากต้นกัญชา มาทำเป็นยา เพื่อดูแลรักษาร่างกายได้อีกหลายโรคด้วย
โดยเฉพาะ การนำกัญชา มาใช้เป็น ยา จะต้องทำด้วยความระมัดระวัง เพราะในกัญชา มีสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย หลายชนิด แต่ถ้าใช้ผิดวิธี ก็ย่อมส่งผลข้างเคียงต่อร่างกายด้วยเช่นกัน


ก่อนที่จะเริ่มต้นใช้ เพื่อนำมาดูแลสุขภาพ มารู้จักถึงข้อดี ข้อเสียกันก่อน

สารสำคัญที่อยู่ในกัญชา

THC : Tetrahydrocanabinol เป็นสารออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท และยังเป็นสารที่มีฤทธิ์ในการปกป้องเซลล์ประสาทด้วยเช่นกัน โดย THC ทำปฏิกิริยากับตัวรับ CB1 และ CB2 ในร่างกาย ซึ่ง หากร่างกาย ได้รับ THC มากเกิน จะส่งผลต่อจิตประสาท หรือเกิดการการ เก็ทไฮ หรือ พี้ ขึ้นได้ THC ถือเป็นสารเสพติดให้โทษ เป็นสารควบคุม

CBD : Cannbidiol ซึ่ง CBD จะส่งผลต่อตัวรับ CB2 ในร่างกาย ที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาท และระบบเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกาย ในทางการแพทย์ จึงนำ CBD จากกัญชา มาใช้ร่วมในการรักษาโรคบางอย่าง และช่วยบำบัดอาการได้หลายอาการด้วยเช่นกัน แต่ปัจจุบัน เริ่มมีการสกัด CBD ออกจากกัญชา เพื่อให้ได้ CBD บริสุทธิ์ และมีมี THC เจือปน
แต่ในทางการวิจัยทางคลีนิค บางครั้งการใช้ สาร CBD เพียงอย่างเดียว อาจจะได้ประสิทธิผล ไม่เท่ากับ การมี THC หรือสารอื่นๆ ที่ผสมอยู่ในกัญชา เพราะสารบางอย่าง จะช่วยเสริมประสิทธิภาพของ CBD ให้ทำงานได้ดีกว่า ใช้เฉพาะ CBD เพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพียงแต่ THC ควรมีการควบคุมปริมาณ ให้อยู่ในเกณฑ์ ก็อาจส่งผลดีกว่า

ดังนั้น  กัญชา ไม่ได้มีเพียงแค่ CBD และ THC แต่ยังมีเทอร์ปีน และเทอร์ปินอยด์ผสมอยู่ด้วย จึงทำให้กระแสการนำกัญชามาใช้กับผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น เครืองสำอาง มาใช้ในการดูแลผิวพรรณด้วย แต่ก่อนที่จะนำมาผสมใช้ ลองศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมกันก่อน เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องและเกิดประสิทธิผล ต่อการดูแลผิวพรรณ

เมื่อคุณดมน้ำมันหอมระเหย กลิ่นที่คุณได้กลิ่น ก็คือสารเทอร์ปีน ที่ผสมอยู่ในพืชทั้งหลายที่มีกลิ่นหอม และในกัญชาเอง ก็มีเทอร์ปีนอยู่หลายตัวด้วยเช่นกัน
เทอร์ปีน พบได้ในช่อเรซิ่นบนยอดขน ที่มีต่อมของน้ำมันกัญชา เทอร์ปีน จะระเหยค่อนข้างง่าย โดยเฉพาะ โมโนเทอร์ปีนที่มีกลิ่นหอม เทอร์ปีนเป็ฯสารที่ชอบไขมันและไม่ชอบน้ำเหมือนสารแคนบินอยด์ ดังนั้น หากกัญชา ถูกนำไปอบแห้ง หรือทำให้แห้ง ก็จะสูญเสียเทอร์ปีนออกไปมาก หรือแทบจะไม่เหลืออยู่เลย

ลองมาดูกันว่า เทอร์ปีน ที่พบมากในน้ำมันกัญชา จะมีตัวไหนกันบ้าง


Pinene  ไพนีน ทั้ง อัลฟ่า ไพนีน และ เบต้า ไพนีน เป็นโมโนเทอร์ปีนที่พบได้มากในต้นไม้ จำพวกสน ไพนีน อาจช่วยปกป้องสมองจากฤทธิ์ของ THC ต่อความทรงจำระยะสั้น เป็นสารที่มีฤทธิ์แรงในการต้านเชื้อโรคและต้านการอักเสบ รวมทั้งยังมีฤทธิ์ในการต้านเซลล์มะเร็งด้วย


ลิโมนีน ส่วนใหญ่พบมากในมะนาว หรือกลุ่มพืชตระกูลซิตรัส เช่น มะนาว ส้ม เบอร์กามอท เทอร์ปีนชนิดนี้ ช่วยต้านอาการซึมเศร้า และต้านการอักเสบ ช่วยกระตุ้นตัวรับอะดีโนซีนเพื่อเพิ่มฤทธิ์ของ THC และ CBD


เบต้า-เมอร์ซีน ส่วนใหญาจะพบในกัญชงมากกว่ากัญชา เทอร์ปีนชนิดนี้เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ คลายกล้ามเนื้อ มีฤทธิ์ในการบรรเทาปวด และเสริมฤทธิ์ของยาระงับประสาท


ลินาโลออล พบมากในลาเวนเดอร์  เทอร์ปีนชนิดนี้ช่วยบรรเทาปวด บรรเทาอาการวิตกกังวล


โอซีมีน พบในโหระพา และพืชกลุ่มเครื่องเทศ เทอร์ปีนชนิดนี้ จะช่วยต้านเชื้อแบคทีเรียได้อย่างดี


เบต้า-แคริโอฟิลีน เป็นเซสควิซเทอร์ปีน เทอร์ปีนนี้ทำหน้าที่คล้าย CBD ซึ่งจะเข้ากันได้กับตัวรับ CB2 ที่ช่วยในเรื่องภูมิคุ้มกัน และเสริมระบบประสาทในร่างกายรวมทั้งมีฤทธิ์ในการต้านการอักเสบได้ ส่วนใหญ่พบได้ใน โคพาอิบา พริกไทยดำ กานพลู และใบกระเพรา


ทั้งนี้ สารเทอร์ปีนต่างๆ ที่พบในกลุ่มพืชกัญชา ถือว่ามีปริมาณน้อย เมื่อเทียบกับพืชที่นำมาสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหย เพราะน้ำมันหอมระเหย จะประกอบไปด้วยเทอร์ปีนมากกว่า 100 ชนิด และมีปริมาณมากกว่าในกัญชาหลายเท่า

ดังนั้น หากต้องการ เทอร์ปีน เพื่อใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางหรือเพื่อดูแลสุขภาพ ลองมาใช้น้ำมันหอมระเหย เพื่อให้ได้สารเทอร์ปีนต่างๆ จะได้ปริมาณที่มากกว่า ปลอดภัย  และยังมีกลิ่นหอมๆ มาดูแลจิตใจด้วย